ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง โครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ
ที่มา: ราชกิจจานุเบกษา (2552: 54)
บัญชีท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง โครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับการอุตสาหกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552
ลำดับที่
|
โครงการหรือกิจกรรม
|
ขนาด
|
1
|
การทำเหมืองใต้ดิน เฉพาะด้วยวิธีออกแบบให้โครงสร้างยุบตัวภายหลังการทำเหมืองโดยไม่มีค้ำยันและไม่มีการใส่คืนวัสดุทดแทนเพื่อป้องกันการยุบตัว
|
ทุกขนาด
|
2
|
เหมืองแร่ตะกั่ว และสังกะสี
|
ทุกขนาด
|
3
|
การถลุงแร่
3.1 การถลุงแร่ด้วยสารละลายเคมีในชั้นดิน (In-Situ Leaching)
3.2 อุตสาหกรรมการผลิตเหล็กขั้นต้น
|
ทุกขนาด
กรณีตั้งโรงงาน
กำลังการผลิตตั้งแต่ 20,000 ตันต่อวันขึ้นไป
กรณีขยายโรงงาน
เพิ่มกำลังการผลิตเกินกว่าร้อยละ 35 สำหรับโรงงานเดิมที่มีกำลังการผลิตตั้งแต่
20,000 ตันต่อวันขึ้นไป หรือเพิ่มกำลังการผลิตรวมเป็นตั้งแต่ 20,000 ตันต่อวันขึ้นไป
|
ทั้งนี้ การตั้งหรือขยายโรงงานในโครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 5 ไม่ต้องดำเนินการตามประกาศนี้ในกรณีที่โครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 5 นั้น ได้ดำเนินการตามประกาศนี้รองรับไว้ก่อนแล้ว
| ||
4
|
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นหรือขั้นกลางที่มีการใช้หรือผลิตสารอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
4.1 สารที่ก่อให้เกิดมลสารทางอากาศที่เป็นอันตราย
(Hazardous Air Pollutant) ได้แก่
(1) Asbestos
(2) Benzene
(3) Benzidine
(4) Bis (chloromethyl) ether
(5) Beryllium and beryllium compounds
(6) 1,3-Butadiene
|
กรณีตั้งโรงงาน
มีการใช้หรือผลิตสารตาม 4.1 หรือ 4.2 ตั้งแต่ 1,000 ตันต่อวันขึ้นไป
กรณีขยายโรงงาน
เพิ่มการใช้หรือผลิตสารตาม 4.1 หรือ 4.2 รวมกันเกินกว่าร้อยละ 35 สำหรับโรงงานเดิมที่มีการใช้หรือผลิตสารดังกล่าวตั้งแต่ 1,000 ตันต่อวันขึ้นไป หรือเพิ่มการใช้สารตาม 4.1 หรือ 4.2 รวมเป็นตั้งแต่ 1,000 ตันต่อวันขึ้นไป
ทั้งนี้ การตั้งหรือขยายโรงงานในโครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 5 ไม่ต้องดำเนินการตามประกาศนี้ ในกรณีที่โครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 5 นั้นได้ดำเนินการตามประกาศนี้รองรับไว้ก่อนแล้ว
|
(7) Cadmium and cadmium compounds
(8) Chromium (VI)
(9) Ethylene Oxide
(10) Formaldehyde
(11) Nickel compounds
(12) Phosphorus-32 , as phosphate
(13) Radionuclides (including radon)
(14) Vinyl chloride
4.2 สารที่มีพิษรุนแรง (Highly Toxic) ได้แก่
(1) สารที่มีค่า LD50 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัว เมื่อทดสอบในหนูขาว(ทางปาก) ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 200-300 กรัม
|
(2) สารที่มีค่า LD50 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัว เมื่อทดสอบในกระต่ายขาว (ทางผิวหนัง) ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 200-300 กรัม โดยสัมผัสสารติดต่อกันเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หรือน้อยกว่า แล้วมีการตายเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง
(3) สารที่มีค่า LC50 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 ส่วนในล้านส่วนโดยปริมาตรสำหรับก๊าซหรือไอ หรือน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 มิลลิกรัมต่อลิตร สำหรับละออง ฟูม หรือฝุ่น เมื่อทดสอบในหนูขาว(ทางการหายใจ) ที่มีน้ำหนักตัวระหว่าง 200-300 กรัม โดยสูดดมสารอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือน้อยกว่า แล้วมีการตายเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ LD50 หมายถึง ปริมาณของสารที่ให้กับสัตว์ ทดลองทั้งหมดเพียงครั้งเดียว แล้วทำให้สัตว์ทดลองตายลงร้อยละ 50
|
ค่า LC50 หมายถึง ค่าความเข้มข้นของสารในอากาศ หรือในน้ำที่ทำให้สัตว์ทดลองตายลงร้อยละ 50
| ||
5
|
นิคมอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือโครงการที่มีลักษณะเช่นเดียวกันกับนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจัดตั้งเพื่อรองรับอุตสาหกรรมผลิตเหล็กขั้นต้นหรืออุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นหรือขั้นกลางขนาดเกินกว่าที่กำหนดไว้ในโครงการหรือกิจกรรมลำดับที่ 3 หรือลำดับที่ 4 แล้วแต่กรณี
|
ทุกขนาด
|
6
|
โรงงานฝังกลบของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรม หรือเตาเผาที่จัดสร้างเพื่อกำจัดของเสียอันตรายจากอุตสาหกรรม
|
ทุกขนาด
|
7
|
โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ยกเว้นก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติสังเคราะห์
|
มีกำลังผลิตไฟฟ้า ตั้งแต่ 100 เมกะวัตต์ ขึ้นไป
|
8
|
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
|
ทุกขนาด
|
ที่มา: ราชกิจจานุเบกษา (2555)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น