รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 67



รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕o มาตรา ๖๗ 
บัญญัติว่า
สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชน ในการอนุรักษ์บำรุงรักษาและการได้ประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และในการคุ้มครอง ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่อง ในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน ย่อมได้รับความคุ้มครองตามความเหมาะสม
การดำเนินโครงการหรือกิจกรรม ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบ ต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน รวมทั้งได้ให้องค์การอิสระ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม หรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพ ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำเนินการดังกล่าว
สิทธิของชุมชนที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัตินี้ ย่อมได้รับความคุ้มครอง
นอกจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕o มาตรา ๖๗ ที่มีความเกี่ยวข้องแล้ว ยังมีกฎหมายอื่นที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมดังนี้
1. พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๓๕
2. พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕
3. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๕๐
4. พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2521
จากที่กล่าวไปข้างต้นนี้ ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕o มาตรา ๖๗ 
โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง โครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชน มีสาระสำคัญ 3 ประการ คือ
1. ให้โรงงานตามบัญชีท้ายประกาศของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ที่ต้องจัดทำ EIA ตามพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 เป็นโรงงานที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง
2. ก่อนพิจารณาคำขออนุญาตของโรงงานตามข้อ 1 ต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียก่อน โดยวิธีการให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางในการจัดทำรายงาน EIA ออกตามมาตรา 46 และ 51 ของพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535
3. ในการพิจารณาคำขออนุญาตโรงงานตามข้อ 1 ให้ผู้อนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 พิจารณาเฉพาะโรงงานที่ผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการผู้ชำนาญการตามมาตรา 49 ของพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 แล้วเท่านั้น
โครงการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชน จึงต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน (Health Impact Assessment : HIA) และยังต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียตามหลักเกณฑ์และวิธีการในประกาศฯ ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น