พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2535 : เหมืองแม่เมาะ

3.1.1 เหมืองแม่เมาะ

เหมืองถ่านหินที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย“เหมืองแม่เมาะ” ซึ่งเป็นเหมืองถ่านหินลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง มีระยะห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางทิศเหนือ ประมาณ 630 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองลำปาง ไปทางทิศตะวันออก (ตามเส้นทางหลวงสาย ลำปาง-เด่นชัย) ประมาณ 28 กิโลเมตร เหมืองแม่เมาะ เป็นหน่วยงานหนึ่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการผลิตถ่านลิกไนต์ เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า เริ่มมีการขุดทำเหมืองครั้งแรกในปี พ.ศ. 2497 ทำการผลิตถ่านหินสำหรับนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าประมาณ 17 ล้านตัน หรือคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นของกำลังผลิตของทั้งประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์มากมายแต่ในอีกมุมหนึ่ง เหมืองแม่เมาะก็ได้สร้างผลกระทบด้านสุขภาพ จากปัญหาการรั่วไหลของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหมืองถ่านหินแม่เมาะ จากปัญหาการรั่วไหลของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงต่างล้มป่วยอย่างผิดสังเกต จนกระทั่งสิบปีต่อมา ด้วยความเดือดร้อนอย่างสาหัส จึงทำให้เกิดการรวมตัวกันของผู้ได้รับผลกระทบในนามของ เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ เกือบสิบปีที่ผ่านมานี้ เครือข่ายฯ ได้ผลักดันให้รัฐบาลทำตามข้อเสนอใน 3 ประเด็น คือ 1.อพยพโยกย้ายชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบออกจากพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า 2. จัดตั้ง “คลินิกอาชีวเวชศาสตร์” เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่เป็นโรคปอดอักเสบจากฝุ่นหินจากลิกไนต์ และ 3. จัดตั้งกองทุนรักษาผู้ป่วย ซึ่งก็ได้รับการตอบสนองในระดับหนึ่ง แต่ทว่าก็ยังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถาวร โดยในปี พ.ศ. 2547 , 2549 และ 2551 คณะรัฐมนตรีมีมติให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรของโรงงานไฟฟ้า มีผู้สมัครใจอพยพ 493 ครอบครัว ส่วนอีกกว่า1,000 ครอบครัว ยังคงยินดีที่จะอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิม เนื่องจากมีความเห็นต่างจากกลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วย ส่วนเรื่องการจัดตั้งคลินิกอาชีวเวชศาสตร์ นั้น กระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติงบประมาณ 36 ล้านบาทในการสร้างโรงพยาบาลอาชีวเวชศาสตร์ที่แม่เมาะแล้ว ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนประเด็นจัดตั้งกองทุนนั้น แม้ว่าจะมีกองทุนเกิดขึ้น แต่ก็ผิดวัตถุประสงค์ที่ทางเครือข่ายเรียกร้อง เครือข่ายจึงได้ทำเรื่องร้องเรียนให้มีการยุบกองทุนนี้ไป และกำลังอยู่ในระหว่างการใช้ระเบียบใหม่เพื่อสรรหากรรมการกองทุนชุดใหม่ ปัญหาแม่เมาะ ซับซ้อนและฝังรากลึก แม้ดูเหมือนว่า รัฐได้ทำตามข้อเรียกร้องไปแล้ว แต่การแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นการแก้ไขปัญหาที่หละหลวม นอกจากปัญหาก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์รั่วจะยังไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว มาตรการที่ดำเนินการมายังมีปัญหาลูกโซ่ตามมา เช่น ระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่แห่งใหม่ที่ให้ประชาชนย้ายมาอยู่ยังไม่มีความพร้อม และปัญหาความไม่ชัดเจนเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินผืนใหม่ เป็นต้น ส่วนชาวบ้านที่ยังไม่ได้ย้ายออกมานั้นเล่า พวกเขาก็ยังคงต้องเผชิญหน้ากับปัญหาผลกระทบทางด้านสุขภาพอยู่เหมือนเดิม โดยที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาลใดเลย

การแก้ไขปัญหาของทางราชการ หลังจากที่มีปัญหาด้านมลพิษทางฝุ่นควัน ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในนามของเหมืองแม่เมาะ และโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ดำเนินการรักษาและควบคุมมาตรฐานด้านมลพิษอย่างเคร่งครัด ในส่วนของเหมือง ได้ทำการติดตั้งหลังคาคลุมสายพานลำเลียงไว้ตลอดแนว พร้อมทั้งมีการฉีดพรมน้ำในสายพานลำเลียงและหน้างานเป็นระยะๆ เพื่อให้ความชื้นเป็นตัวลดการกระจายของฝุ่นละออง โดยผลจากสถานีตรวจสอบคุณภาพอากาศ ซึ่งติดตั้งไว้โดยรอบจำนวน 13 สถานีนั้น ได้รายงานผลออกมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ในระดับที่เป็นที่น่าพอใจ คือมีคุณภาพอากาศในทุกๆด้าน ดีกว่าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมีคุณภาพอากาศใกล้เคียงกับเขตเมืองลำปาง นอกจากมีการฉีดน้ำพรมหน้างานแล้ว ยังมีการปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยรอบ เพื่อเป็นแนวกันฝุ่น ไม่ให้ลอยออกไปในย่านที่อยู่อาศัยใกล้เคียงด้วย และมาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้วมีดังนี้
ซึ่งนอกจากจะมีการปรับปรุงด้านมลภาวะเเล้วก็ยังมีการให้ความรู้กับประชาชนด้วย และมีการเปิด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา เหมืองแม่เมาะ,สวนพฤกษชาติ,อาคารนันทนาการและสนามกอล์ฟ และทุ่งบัวตอง 
การดำเนินงานในปัจจุบัน เหมืองแม่เมาะได้ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตรอย่างเคร่งครัดนอกจากนี้ยังได้มีการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ พร้อมทั้งรายงานผลการตรวจติดตาม ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เสนอสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุก 6 เดือน ในปี 2543 เหมืองแม่เมาะได้นำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล หรือ ISO 14001 มาใช้กับการทำเหมือง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การดูแลสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ จะต้องได้ผลตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และมีการติดตามตรวจสอบอย่างเป็นระบบ เหมืองแม่เมาะได้เริ่มผลิตถ่านลิกไนต์ออกจำหน่ายให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 เป็นต้นมาและปัจจุบันได้ผลิตถ่านลิกไนต์เพื่อส่งให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะจำนวน10 หน่วย กำลังผลิตร่วม 2,400 เมกะวัตต์ ผลการดำเนินงานโดยสรุปมีดังนี้

สรุปสถานะของเหมืองแม่เมาะ ถึงเดือนกรกฎาคม 2557 
          งานเปิดหน้าดิน 1,586.3 ล้าน ลบ.ม. 
          งานผลิตถ่าน        312.1 ล้าน ตัน
มาตรฐานISO14000 เหมืองแม่เมาะมีความรับผิดชอบในการส่งถ่านลิกไนต์ให้กับลูกค้า คือ โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ให้ได้ปริมาณและคุณภาพตามที่โรงไฟฟ้าต้องการ ปัจจุบันเหมืองแม่เมาะส่งถ่านประมาณปีละ 16 ล้านตัน ให้โรงไฟฟ้าหน่วยที่ 4-13 ซึ่งมีกำลังการผลิต 2,400 MW ในกระบวนการผลิตจะต้องเปิดเปลือกดินออกไปทิ้งนอกบ่อเหมืองก่อนที่จะขุดเอาถ่านลิกไนต์ส่งให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทำให้เหมืองแม่เมาะมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการขุดบ่อเหมืองประมาณ 37 ตารางกิโลเมตรและใช้พื้นที่ทิ้งดินนอกบ่อเหมืองอีกประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร ในการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด เหมืองแม่เมาะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญ4 ด้านด้วยกัน คือ 1.ด้านการผลิตและส่งถ่านลิกไนต์ มีกระบวนการวางแผนและการผลิตที่มีคุณภาพ โดยการนำระบบการจัดการคุณภาพตามมาตรฐานสากล ISO 9001 : 2000 มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหาร จัดการ 2. ด้านการซ่อมและบำรุงรักษาเครื่องจักร มีกระบวนการในการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ โดยการนำระบบการจัดการคุณภาพตามมาตรฐานสากลISO 9001 : 2000 มา ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ 3.ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีระบบบริหารจัดการด้านผลกระทบที่เกิดกับสุขภาพจากการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน และลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินจากการทำงาน โดยนำระบบการบริหารความปลอดภัยสมัยใหม่ (Modern Safety Management) มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ 4.ด้านสิ่งแวดล้อม มีระบบบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยการนำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล ISO 14001 : 2004 มาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ เหมืองแม่เมาะจึงนำระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐานสากล ISO 9001 : 2000 มาใช้ในการผลิตและส่งถ่านลิกไนต์ โดยเริ่มนำระบบมาใช้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2545 และได้รับการรับรองระบบจากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) ครั้งแรกวันที่ 11 เมษายน 2546 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2549 และครั้งที่ 2 วันที่ 11 เมษายน 2549 ถึงวันที่ 10 เมษายน 2552 โดยมีหัวใจหลักของระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2000 คือการควบคุมกระบวนการในการทำเหมือง มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการรับรองระบบจากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) ครั้งแรกวันที่ 8 พฤศจิกายน 2545 ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 และครั้งที่ 2 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 ถึงวันที่ 7พฤศจิกายน 2551 การจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมตาม EIA กำหนดให้ทางราชการทราบทุก 6 เดือน โดยมีเจ้าหน้าที่ทางราชการเข้ามาตรวจในพื้นที่เป็นระยะๆ การจัดการผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองสามารถดำเนินการได้สอดคล้องกับข้อกำหนดกฎหมายและ EIAมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามชุมชนบางส่วนก็ยังไม่มั่นใจในการดูแลสิ่งแวดล้อมของเหมืองแม่เมาะ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าระบบการตรวจสอบการจัดการสิ่งแวดล้อมยังเป็นหน่วยราชการและเหมืองแม่เมาะเอง อาจทำให้เกิดความไม่เชื่อใจว่ามีการช่วยเหลือผ่อนปรนหรือไม่ เหมืองแม่เมาะจึงได้ตัดสินใจนำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล ISO 14001 มาใช้ตั้งแต่ปี 2543 และผ่านการตรวจติดตามระบบฯ (Surveillance) จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน การรับรองระบบฯ โดย สรอ. จะออกใบรับรองให้คราวละ 3 ปี หลังจากนั้นจะต้องทำการตรวจประเมินระบบใหม่ (Re-assessment) ใบรับรองใบแรกคือ วันที่ 27 เมษายน 2544 ถึงวันที่26 เมษายน 2547 และใบที่ 2 คือวันที่ 27 เมษายน 2547 ถึงวันที่ 26 เมษายน 2550
ที่มา : http://maemohmine.egat.co.th/ http://www.egat.co.th/

เปรียบเทียบมาตฐานการปฏฺิบัติกด้านสิ่งแวดล้อมกับการปฏิบัติด้านการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 
รายงานทางการเงินที่แสดงรายการเกี่ยวเหมืองและสิ่งแวดล้อมจากงบแสดงฐานะการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 (บางส่วน)
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นประกอบด้วยรายจ่ายรอการตัดบัญชีด้านเหมืองลิกไนต์และอื่นๆ ร้อยละ 0.57 ของสินทรัพย์รวม รายละเอียดแสดงตามหมายเหตุที่ 6.16 ดังนี้
ซึ่งรายจ่ายรอการตัดบัญชีด้านเหมืองลิกไนต์มีรายละเอียดดังนี้
หนี้สินไม่หมุนเวียนประอบด้วยประมาณการหนี้สินเพื่อการฟื้นฟูสภาพบริเวณเหมือง ร้อยละ 0.36 ของสินทรัพย์รวมทั้งหมด แสดงรายละเอียดตามหมายเหตุประกอบงบการเงินที่ 6.21 ดังต่อไปนี้
ซึ่งนโยบายการประมาณหนี้สินเพื่อการฟื้นฟูสภาพบริเวณเหมืองเปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงินที่3.14 ดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ กฟผ.มีการเปิดเผยรายละเอียดหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ดังต่อไปนี้

รายงานทางการเงินของ กฟผ.ประจำปี 2556
ข้อวิเคราะห์ของกลุ่มต่อเหมืองแม่เมาะ 
          ด้านการทำเนินงานเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม จากปัญหาการรั่วไหลของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมาเกิดการรวมตัวกันของผู้ได้รับผลกระทบในนามของ เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะผลักดันให้รัฐบาลทำตามข้อเสนอใน 3 ประเด็น คือ 

  1. อพยพโยกย้ายชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบออกจากพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า 
  2. จัดตั้ง “คลินิกอาชีวเวชศาสตร์” เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่เป็นโรคปอดอักเสบจากฝุ่น     หินจากลิกไนต์ และ 
  3. จัดตั้งกองทุนรักษาผู้ป่วย 
          ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไม่ใช่ต้นเหตุซึ่งไม่ถูกต้องที่ประชาชนที่อาศัยและทำมาหากินมาเนิ่นนานก่อนที่จะเกิดเหมืองหรือโรงไฟฟ้าแม่เมาะต้องอพยพออกจาพื้นที่หรือต้องมาป่วยเรื้อรังแม้ประชาชนจะได้รับค่าชดเชยจากการกระทำดังกล่าวแต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เสียไปแล้วไม่สามารถวัดค่าได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการแก้ไขที่ต้นเหตุมากขึ้นเหมืองแม่เมาะมีการดำเนินงานตามมาตรการการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อมเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดทำให้ชุมชนมีความปลอดภัยขึ้นด้านสุขภาพซึ่งนอกจากจะมีการปรับปรุงด้านมลภาวะทางด้านฝุ่น กลิ่น เสียงและน้ำจาการทำเหมืองแล้ว ก็ยังมีการให้ความรู้กับประชาชนด้วย และมีการเปิด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษาเหมืองแม่เมาะ สวนพฤกษชาติ อาคารนันทนาการและสนามกอล์ฟและทุ่งบัวตอง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบได้ทางหนึ่ง 
          ด้านการรายงานผลเปิดเผยผลการดำเนินงานเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมต่อสาธารณะของเหมืองแม่เมาะที่เห็นชัดเจนมีเพียงงานรายงานประมาณการหนี้สินเพื่อการฟื้นฟูสภาพบริเวณเหมืองในงบแสดงฐานะการเงินและรายจ่ายรอการตัดบัญชีด้านเหมืองลิกไนต์และอื่นๆ แสดงอยู่ในหมายเหตุประกอบงบการเงินเท่านั้น แต่ในรายละเอียดเรื่องอื่นยังคงเป็นการรายงานการดำเนินงานแค่ส่วนหนึ่งและรายงานเพียงแค่ข้อมูลพื้นๆเท่านั้นแล้วจึงนำมารายงานรวมกันในรายงานของ กฟผ.ซึ่งเป็นการรายงานในเชิงบวกต่อตัวองค์การ การเข้าถึงรายละเอียดการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่สามารถทำได้ อาจเกิดจากตัวของเหมืองแม่เมาะเองไม่ได้จัดเก็บรายละเอียดเพียงพอหรือตั้งใจจำกัดการเข้าถึงของบุคคลทั่วไป ดังนั้นเหมืองแม่เมาะจึงควรมีการเปิดเผยรายงานการดำเนินงานที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อมทั้งหมดทั้งข้อมูลเชิงคุณภาพควบคู่กับข้อมูลเชิงปริมาณแยกเป็นของเหมืองอย่างชัดเจนเนื่องจากในกระบวนการผลิตส่วนใหญ่ของเหมืองแม่เมาะส่งผลกระเป็นวงกว้างทั้งสิ่งแวดล้อมและชุมชน และควรนำข้อมูลในส่วนนี้เผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้และเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แสดงให้เห็นถึงการประกอบการที่มีจริยธรรมและมีความรับผิด ชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น