ตัวอย่างบริษัท : บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)


บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

1.1 ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร
·       บริษัทน้ำมันชั้นนำของคนไทย ประกอบธุรกิจปิโตรเลียมครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาน้ำมันดิบ ผลิต และจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูป
·       ก่อตั้งขึ้นตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2527
·       จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดำเนินการในลักษณะบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2527
·       จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัท มหาชน จำกัด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2536 และได้นำหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2537
·       ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,531ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 1,377 ล้านบาท
·       สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 555/1 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคาร A ชั้น 10 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

1.2 แนวคิด
บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเพื่อดำเนินธุรกิจพลังงานมาตั้งแต่ปี 2527 ได้ยึดหลักวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม” ในการดำเนินธุรกิจเสมอมา บริษัท ได้นำทั้งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักธรรมาภิบาล และหลักการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้บรรลุถึงการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ได้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่จะกระจายรายได้สู่ธุรกิจที่มีรายได้มั่นคง ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (Low Carbon Company) และต่อยอดมาสู่เป้าหมายร่วมสร้างสังคมสรเขียว (Green Society) ด้วยกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Green Process) ทุกขั้นตอนของโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในองค์กร พร้อมขยายเครือข่ายสังคมสีเขียวไปยังบริษัทในเครือ คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสีย

1.3 .การดำเนินการ














































1.4 รายงาน
1.พัฒนาธุรกิจให้เติบโตและมีการกระจายความเสี่ยงสู่ธุรกิจที่รายได้มั่นคง
บริษัทฯได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตด้วยการสร้างมูลค่าให้กับกิจการอย่างยั่งยืนโดยการปรับโครงสร้างลดสัดส่วนรายได้จากการดำเนินธุรกิจน้ำมันปิโตรเลียมซึ่งด้วยธรรมชาติของธุรกิจการกลั่นน้ำมันมีความผันผวนสูงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกและค่าการกลั่นที่ผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคจากปัจจุบันที่ประมาณร้อยละ 80 เป็นร้อยละ 50 เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ในธุรกิจใหม่ซึ่งนับรวมถึงธุรกิจพลังงานสะอาดและธุรกิจพลังงานอื่นๆที่มีรายได้ที่คงที่และมีความเสี่ยงจากความผันผวนของปัจจัยภายนอกต่ำแทนจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 50 ในปี 2563 ได้แก่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ธุรกิจผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มที่รวมไปถึงการปลูกปาล์มและธุรกิจการผลิตเอทานอลจากพืชพลังงาน

2.มุ่งสู่บริษัทที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ (Low Carbon Company)
บริษัทฯตระหนักว่าการดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเป็นธุรกิจที่ใช้พลังงาน (Energy Consuming Industry) ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ตั้งเป้าหมายสู่บริษัทที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้น้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจการกลั่นของบริษัทฯให้เหลือน้อยที่สุดโดยภายในปี 2558 บริษัทฯจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่าร้อยละ 50 (จาก Business as usual baseline) จากธุรกิจพลังงานทดแทนดังกล่าวข้างต้นและการผลิตน้ำมันดีเซลจากสาหร่ายซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาอีกทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานของโรงกลั่นและการใช้เชื้อเพลิงสะอาด

3.พัฒนารูปแบบกิจกรรมและการดำเนินธุรกิจที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้วยวัฒนธรรมองค์กรในการพัฒนาธุรกิจร่วมไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมอันนำไปสู่ความยั่งยืนบริษัทฯได้พัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจที่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกับการเติบโตของธุรกิจจนประสบความสำเร็จและยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องได้แก่การร่วมดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันกับสหกรณ์การเกษตรซึ่งเป็นการสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและสังคมของกลุ่มสหกรณ์อีกทั้งการรับซื้อสินค้าเกษตรที่ผลิตโดยชุมชนมาเป็นสินค้าส่งเสริมการขายของบริษัทฯเพื่อเป็นช่องทางการตลาดสร้างโอกาสให้สินค้าชุมชนเข้าถึงผู้บริโภคยิ่งกว่านั้นบริษัทฯได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงพลังงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรพัฒนารูปแบบธุรกิจการพลิกสวนส้มร้างสู่สวนปาล์มน้ำมันซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่สวนส้มร้างรังสิตสอดคล้องกับแผนส่งเสริมพลังงานทดแทนของรัฐและได้ส่งผลทางอ้อมให้พื้นที่ทุ่งรังสิตสามารถดูดซับน้ำลดปัญหาแผ่นดินทรุดและน้ำท่วม

4.เปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้
บริษัทฯได้ดำเนินการโดยยึดหลักเปิดเผยโปร่งใสตรวจสอบได้มีโครงสร้างการบริหารที่ดูแลเรื่องธรรมาภิบาลโดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาลและตามกฎเกณฑ์ตลาดลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่านรายงานประจำปีรายงานการพัฒนาธุรกิจร่วมไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมเว็บไซด์ฯลฯนอกจากนั้นบริษัทฯยังเปิดเผยข้อมูลคุณภาพอากาศและน้ำทิ้งโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯบริเวณชุมชนรอบโรงกลั่นซึ่งนับว่าเป็นการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมเชิงรุก (Proactive)

จากเจตนารมณ์และการดำเนินงานของบางจากฯ ที่จะร่วมสร้างสังคมสีเขียว (Green Society) ด้วยวัฒนธรรมองค์กร พัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้มและสังคมวัฒนธรรมพนักงาน เป็นคนดี มีความรู้ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นภายใต้วิสัยทัศน์ “Greenergy Exoellenoe” พัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานกระบวนการผลิต พลังงานทดแทน การประหยัดพลังงานในองค์กร ผลิตและจำหน่ายพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ที่สร้างสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่า ของชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน








ใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนโดยใช้หลัก 3R คือ ลดการใช้ทรัพยากร (Reduce) หมุ่นเวียนกลับมาใช้ใหม่ (Reuse/Recycle) และฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม (Replenish) และมีนโยบายไม่ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม (Zero Emission) เพื่อให้การดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้กระบวนการสร้างอุตสาหกรรมสะอาดอย่างแท้จริง


3.            
                  วิเคราะห์
·       บริษัทบางจากฯ ได้มีการจัดทำคาร์บอนฟุตปริ้นท์ โดยมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาจากทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งทางตรงในปี2555 ได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต 723,269ตัน และในปี2556 ได้เพิ่มเป็นจำนวน 819,828ตัน รวมถึงทางอ้อมในปี2555 ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 313,709ตันลดลงเหลือ 169,759 ตัน ในปี2556 ซึ่งสรุปในภาพรวมได้ว่า ในปี2555 มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,036,978 ตันลดลงเหลือ 989,587ตัน ในปี2556
·       คุณภาพอากาศจากปล่องระบายของบริษัท บางจากฯ ได้มาตรฐานตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดมาตรฐานควยคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงงานกลั่นน้ำมันปิโตเลียม พ.ศ.2554 และมาตรฐาน EIA
·       กากของเสีย บริษัท บางจากฯ ได้แบ่งออกเป็น 2ประเภท คือของเสียอันตรายและของเสียไม่อันตราย ซึ่งของเสียอันตรายในปี 2555 มีจำนวน 1,739ตัน คิดเป็นร้อยละ 71 และของเสียที่ไม่เป็นอันตรายจำนวน 692ตัน คิดเป็นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับกากของเสียในปี2556 มีของเสียอันตรายจำนวน 1,253ตัน คิดเป็นร้อยละ 48 และของเสียที่ไม่เป็นอันตรายจำนวน 1,363ตัน คิดเป็นร้อยละ 52 และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันระหว่างปี2555 กับ ปี2556 พบว่ามีกากของเสียจำนวนมากขึ้นจากปี2555 แต่ของเสียอันตรายในปี2556 มีอัตราส่วนลดน้อยลง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น