ตัวอย่างบริษัท : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)

 ประวัติบริษัท
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 20 เมษายน2536 โดยนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ประเภท บ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว และอาคารชุด ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 50 ล้านบาท ทั้งนี้นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ได้นำความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ รับเหมาก่อสร้างให้แก่ทั้งภาครัฐและเอกชนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ประกอบกับการมีทีมผู้บริหารมืออาชีพ และการว่าจ้างที่ปรึกษา จากบริษัทชั้นนำของประเทศในการพัฒนาระบบสนับสนุนต่าง ๆ รวมถึงการปรับกลยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีผลการ ดำเนินงานที่มีกำไรตลอด แม้ในช่วงที่เกิดวิกฤต หรือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยพัฒนาโครงการ ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ และการเจริญเติบโตสูงและในต่างประเทศ

วิสัยทัศน์ พฤกษา
               
พฤกษา มุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 แบรนด์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทวีปเอเชีย ด้วยการสรรค์สร้างที่อยู่อาศัย ที่มีคุณค่า เพื่อทุกครอบครัวได้สัมผัสความสุข ความอบอุ่น และชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆวัน
พันธกิจ พฤกษา
               
เรามุ่งมั่นช่วยเหลือลูกค้าทุกราย เติมเต็มทุกความฝันได้เป็นเจ้าของบ้านที่มีคุณค่า เพื่อชีวิตเปี่ยมสุขทุกครอบครัว

รางวัลแห่งความภูมิใจ
บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท มุ่งมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ฝัน อยากจะมีบ้าน เป็นของตนเอง ด้วยปณิธานนี้ บริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้า นักลงทุน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ มากมาย และด้วยผลงานอันเป็นประจักษ์ ต่อสาธารณชน ทำให้ บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท ได้รับรางวัลอันเป็นเกียรติยศแห่งความสำเร็จ และความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจเพื่อสร้าง ความเจริญก้าวหน้าให้กับสังคมและประเทศชาติ

ตัวอย่างรางวัลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและความรับผิดชอบต่อสังคมที่ได้รับในปี 2013

รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม
( Best Company Performance Award 2013)
 
 




                   เป็น รางวัลจากงาน SET AWARD 2013 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มอบให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในแต่ละกลุ่ม ทั้งในด้านผลประกอบการทางธุรกิจ การกำกับกิจการที่ดี รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลและคุณภาพของงบการเงินบริษัทฯ

รางวัลประเภทดีเด่น บริษัทจดทะเบียนด้านความรับผิดชอบต่อสังคม
 ( Corporate Social Responsibility Award )


เป็นรางวัลดีเด่น ที่มอบให้แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่โดดเด่นในด้านการดำเนิน ธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม จากงาน SET AWARD 2013 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยพิจารณามอบให้ เพื่อเป็นแบบอย่างสำหรับภาคธุรกิจอื่นๆ


CSRI Recognition ประจำปี 2556
 



รางวัล "CSRI Recognition" จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (CSRI) เพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับบริษัทฯ ที่สามารถเป็นแบบอย่างดีแก่บริษัทจดทะเบียน หน่วยงาน อื่นๆ และสาธารณชนทั่วไป โดยบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลประเภททั่วไป ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งในการดำเนินงานความรับผิดชอบต่อสังคมของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยสำคัญในการวางรากฐานความเป็นอยู่ทางสังคม  ด้วยเป็นลักษณะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยในการดำรงชีวิต อันได้แก่ ที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สะท้อนคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม ดังนั้น พฤกษา ในฐานะเป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทนี้จึงมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีและพัฒนาเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน
แต่ในอีกมิติหนึ่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ต้องมีการใช้ทรัพยากรในกิจกรรมแต่ละขั้นตอนค่อนข้างมาก ทั้งวัสดุก่อสร้าง การใช้ทรัพยากรน้ำ การใช้ที่ดิน รวมไปถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งระหว่างการก่อสร้างและหลังการก่อสร้าง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นที่โดยรอบโครงการทั้งชุมชนรอบข้างและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในการดเนิน ธุรกิจ ของบริษัทฯ จึงได้ตระหนัก ถึง ความสำคัญในการดูแลรักษาและลดผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อม โดยในการพัฒนาโครงการแต่ละครั้ง จะมีการประเมินผลกระทบต่างๆ มีมาตรการและการตรวจติดตามรวมถึง การนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ จึงได้มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ทั่วทั้งองค์กรอย่างชัดเจน รวมไปถึงแนวการบริหารจัดการ การติดตามวัดผลเพื่อตรวจประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่น่าพอใจต่อผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม

นโยบายและแนวการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
การประหยัดพลังงานและลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างจะมุ่งเน้นวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เช่น การยกเลิกการใช้วัสดุมุงหลังคาที่ทำมาจากใยหิน การเลือกใช้วัสดุสำเร็จรูปที่ประกอบมาจากโรงงานและนำมาติดตั้งที่หน่วยงานก่อสร้างทันทีเพื่อประหยัดพลังงานและลดกระบวนการต่างๆ ที่จะทำให้เกิดมลภาวะในสถานที่ก่อสร้าง
นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ ลงทุนในด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย โดยในปี 2556 บริษัทฯ มีแผนลงทุนสร้างโรงงานพฤกษาพรีคาสต์ใหม่ ใช้งบลงทุนประมาณ 2,100 ล้านบาท เพื่อผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปในการก่อสร้าง ส่งผลดีอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณเมืองและพื้นที่ก่อสร้างเพราะทำให้ไม่มีการผสมคอนกรีตที่หน่วยงานก่อสร้าง ช่วยลดเวลาในการก่อสร้างทำให้ผลกระทบของมลภาวะทางอากาศลดลง เนื่องจากมีปริมาณฝุ่นละอองและไอเสียจากรถบรรทุกและเครื่องจักรลดลง ขณะเดียวกันมลภาวะทางเสียงต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ข้างเคียงลดลงด้วย

การบริหารจัดการคุณภาพน้ำ
                ในโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ ทุกโครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีบ่อบำบัดน้ำเสีย บริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานก่อนระบายน้ำลงสู่คูคลองสาธารณะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนการผลิตของโรงงานพฤกษาพรีคาสต์ซึ่งใช้เครื่องจักรอัตโนมัติที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มมาตรฐานและคุณภาพที่มากขึ้น มีการดำเนินมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนรอบข้าง และสุขอนามัยของคนงาน

การป้องกันและลดผลกระทบด้านเสียงในโรงงาน
             บริษัทฯ คำนึงถึงระดับความดังของเสียงในขณะปฏิบัติงาน จึงได้ติดตั้งผนังกันเสียง (Noise Barrier) และเครื่องเขย่าคอนกรีตแบบลดมลภาวะทางเสียง (Compacting Concrete) เพื่อช่วยควบคุมและลดระดับความดังของเสียงที่อาจส่งผลกระทบต่ออาชีวอนามัยของพนักงานปฏิบัติงานและชุมชนใกล้เคียง

การบริหารจัดการของเสียที่เหลือจากกระบวนการผลิต
บริษัทฯ คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากของเสียที่เหลือจากกระบวนการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กรูป เช่น เศษน้ำมันที่เหลือจากโต๊ะหล่อแบบ เป็นต้น จึงได้นำระบบหรือเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดปริมาณของเสียที่อาจเกิดขึ้น ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการนำเศษน้ำมัน หรือของเสียอื่นๆ ไปทำลายหรือทิ้งภายนอก รวมทั้งดำเนินการจัดการของเสียตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของหน่วยงานราชการ

การบริหารจัดการน้ำทิ้งของ  Batching Plant
น้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็ก เมื่อผ่านการล้าง Mixer Batching Plant จะมีค่าความเป็นด่างสูง ทำให้เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงทำบ่อตกตะกอน เพื่อนำน้ำที่ผ่านกระบวนการตกตะกอนแล้วกลับไปใช้ใหม่หมุนเวียนภายในโรงงาน และนำกากที่ได้จากบ่อตกตะกอนไปถมที่ดินหรือถมถนน

ตารางแสดงผลความก้าวหน้าในการบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากน้ำทิ้ง

การบริหารจัดการวัสดุ
จากการที่บริษัทฯ นำเทคโนโลยีการก่อสร้างด้วยชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปมาใช้ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการก่อสร้างของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมนี ในการผลิตชิ้นส่วนจากโรงงานพฤกษา พรีคาสต์ ไปประกอบเป็นบ้านที่โครงการก่อสร้าง ทำให้มีการบริหารจัดการวัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
·       การใช้เหล็กเสริม
โรงงาน พฤกษา พรีคาสต์ ได้นำระบบการผลิตเหล็กเสริม แบบ Automated Mesh Welding Plant มาใช้งานทำให้การผลิตเหล็กเสริมสำหรับการผลิตชิ้นงาน พรีคาสต์ ทุกแผ่น ถูกต้อง แม่นยำ สมบูรณ์ ทุกชิ้นงาน และสามารถลด Waste การใช้เหล็กเสริม ทำให้มีการใช้วัสดุสำหรับการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ
·       การใช้ซีเมนต์
ในการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กรูปของบริษัทฯ ในแต่ละปี กำลังการผลิตจะแปรผันตามยอดขายบ้านในแต่ละปี โดยวัสดุหลักที่ใช้ใน กระบวนการผลิต คือ ปูนซีเมนต์ ซึ่งมีสถิติปริมาณการใช้ ดังนี้

ผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม โรงงานพฤกษา พรีคาสต์
                จากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ณ โรงงานพฤกษา พรีคาสต์ บริษัทฯ สามารถสรุปผลการตรวจวัดคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมในแต่ละประเด็นได้ดังต่อไปนี้

ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณพื้นที่ทำงาน
สถานที่ตรวจ
ปริมาณฝุ่นละอองรวมทุกขนาด (Total Dust) : หน่วย mg/m3
ค่ามาตรฐาน
2552
2553
2554*
2555
2556
โรงงานพฤกษา พรีคาสต์ 1
15
0.72
0.57
N/A
0.109
0.761
โรงงานพฤกษา พรีคาสต์ 5
15
N/A
N/A
N/A
1.67
1.09
หมายเหตุ :
                มาตรฐานประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับภาวะแวดล้อม (สารเคมี) พ.ศ. 2520
* ปี 2554 โรงงาน
PCF 1 และ PCF 5 ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจึงไม่ได้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศ

ผลการตรวจวัดระดับความดังของเสียงบริเวณพื้นที่ทำงาน
สถานที่ตรวจ
ระดับความดังของเสียง (Noise Level Leq 8 Hrs) : หน่วย dB(A)
ค่ามาตรฐาน
2552
2553
2554*
2555
2556
โรงงานพฤกษา พรีคาสต์ 1
90
N/A
88.6
N/A
77.1
77.1
โรงงานพฤกษา พรีคาสต์ 5
90
N/A
N/A
N/A
80.1
80.1
หมายเหตุ:
                มาตรฐานประกาศกฎกระทรวงเรื่อง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่างและเสียง พ
.. 2549
* ปี 2554 โรงงาน PCF 1 และ PCF 5 ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจึงไม่ได้มีการตรวจวัดระดับความดังของเสียง

การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการขนส่ง
การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ในธุรกิจก่อสร้างเป็นส่วนงานสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัทฯ ให้สามารถบรรลุผลสำเร็จได้ในภาพรวม และอาจเป็นการดำเนินงานที่มีส่วนกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมได้ด้วยเช่นกัน บริษัทฯ จึงได้นำแนวคิดเรื่องการขนส่งที่มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นแนวคิดจากการประกวด SGA (กิจกรรมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆจากการคิดริเริ่มของพนักงาน) มาใช้ในการดำเนินงานด้านการขนส่งผลิตภัณฑ์รั้วของบริษัทฯ เพื่อลดจำนวนเที่ยวในการขนส่ง โดยคิดหาวิธีที่จะทำให้ปริมาณการขนส่งต่อเที่ยวสามารถบรรทุกวัสดุได้มากขึ้น ส่งผลให้จำนวนเที่ยวในการขนส่งลดลง ซึ่งการดำเนินงานลักษณะนี้ นอกจากจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมัน ซึ่งถือเป็นทรัพยากรพลังงานทางธรรมชาติที่สำคัญ แล้วยังช่วยบริษัทฯ ลดต้นทุนการขนส่งในปี 2556 ลงได้ มากถึง 2.34 ล้านบาท ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัทฯ ในการริเริ่มแนวคิดการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ภายในองค์กร และเป็นแนวคิดที่เกิดจากการสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน

ตารางเปรียบเทียบการขนส่ง ก่อน และ หลัง การปรับปรุง
การดำเนินงาน
จำนวนเที่ยวการขนส่ง (เที่ยว) / ปี
ต้นทุนการขนส่ง (ล้านบาท)
ก่อนปรับปรุง
1,335
5.07
หลังปรับปรุง
668
2.74
ค่าใช้จ่ายที่ประหยัด
667
2.34

หมายเหตุ :
การเพิ่มน้ำหนักในการขนส่งผลิตภัณฑ์รั้ว/เที่ยว น้ำหนักรวม 16 ตัน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักมาตรฐานที่กฏหมายกำหนด 25 ตัน


Technology Roadmap
การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมของบริษัทฯ ส่งผลสำคัญในการเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจได้อย่างมาก อาทิ การก่อสร้างด้วยระบบ Precast ที่ทำให้บริษัทฯ เติบโตเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้ในปัจจุบัน บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้พัฒนาและสร้างสรรค์ Technology Roadmap ในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้เทคโนโลยีระหว่างหน่วยงานโดยทำการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เทคโนโลยีที่ใช้ในปัจจุบัน รวมถึงเทคโนโลยีสำคัญที่มีศักยภาพในอนาคต เพื่อนำมาคัดเลือก ประเมิน และกำหนดเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจ ดังนี้

1. Process Technology ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เช่น
        ·       เทคโนโลยีการก่อสร้างด้วยแบบหล่อในที่ระบบอุโมงค์ (Tunnel Form System)
        ·       เทคโนโลยีก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนผนังและพื้นสำเร็จรูป (Precast Concrete System)
        ·       เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านแบบระบบอุตสาหกรรม (Real Estate Manufacturing)
        ·       เทคโนโลยีการทำโมเดลรายละเอียดอาคาร (Building Information Modeling)เทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพของระบบ Precast ที่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา เช่น Precast Knock-Down System, Prefab Bathroom System, และ Lighted Weight Concrete

2. Product Technology แผนงานพัฒนาเทคโนโลยีในด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์แนวโน้ม ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตอันใกล้ ในด้านต่าง ๆ
        ·       เทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดพลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Revolution)
        ·       บ้านที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ บ้านที่คำนึงถึงการใช้สอยของคนทุกช่วงอายุ (Health Society)
        ·       เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เช่น บ้านที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้า เปิดปิดไฟ ได้ดังใจผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (Digital Lifestyle)
        ·       เทคโนโลยีที่เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น เทคโนโลยีที่แจ้งเตือนและลดอุบัติเหตุ จากการพลัดตกจากที่สูง (Safety Concern)

มาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย
              บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯมีการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ตามประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ที่ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) เพื่อวิเคราะห์ ประเมินผลกระทบ และกำหนดมาตรการป้องกัน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบโครงการซึ่งบริษัทฯได้จัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการที่อยู่อาศัยโดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ก่อนก่อสร้างโครงการ
บริษัทฯ มีการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรอบโครงการทั้งสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ และสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ อาทิ ฝุ่นละออง มลพิษทางอากาศ เสียง ความสั่นสะเทือน การพังทลายของดิน การบำบัดน้ำเสีย การระบายน้ำ การจัดการขยะมูลฝอย ไฟฟ้า น้ำเสีย การจราจร เป็นต้น ซึ่งมีการตรวจวัดประเมินผลกระทบ กำหนดแผนการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม

ระหว่างการก่อสร้างโครงการ
ตลอดระยะเวลาของการก่อสร้างโครงการ บริษัทฯ ได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและชีวภาพ เปรียบเทียบผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมกับมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย และมีการสรุปผลการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและข้อเสนอแนะส่งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันพิจารณา และมีการวัดผลกระทบต่อคุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และต่อคุณค่าคุณภาพชีวิต

ช่วงดำเนินโครงการ
บริษัทฯ ดำเนินการตรวจวัดและประเมินผลกระทบต่อทรัพยากรสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและทางชีวภาพ ผลกระทบต่อคุณค่าการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และผลกระทบต่อคุณค่าคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ในปี 2556 มีโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านพฤกษา 80 ชลบุรี และคอนโดมิเนียม The Tree Bang Po Station ที่มีการดำเนินงานการก่อสร้างโครงการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยมีมาตรการและผลการดำเนินงานที่สำคัญ สรุปได้ดังนี้

ตัวอย่างการดำเนินงานของโครงการบ้านพฤกษา 80


ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
มาตรการป้องกันและแก้ไข
การติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ผลการดำเนินงาน
คุณภาพอากาศ และฝุ่นละออง
- จำกัดความเร็วของรถบรรทุกวัสดุก่อสร้าง ขณะแล่นเข้าออกพื้นที่โครงการ ให้มีความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ใช้ผ้าใบ หรือวัสดุที่คล้ายกันกั้นตัวอาคาร โดยยึดติดกับนั่งร้านด้านนอก ให้มีความสูงเท่ากับความสูงของอาคารขณะก่อสร้างตลอดแนวอาคาร เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและเศษวัสดุก่อสร้าง
- ปลูกต้นไม้ใหญ่ ตามที่ได้ออกแบบไว้เพื่อช่วยดูดซับปริมาณก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ ที่เกิดจากรถยนต์ภายในโครงการ


- มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดฝุ่นละอองตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง
- เกิดฝุ่นละอองสูงสุด 0.007 มก./ลบ.ม. (ผลรวมปริมาณคุณภาพอากาศ เท่ากับ 0.093 มก./ลบ.ม. ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศ
- ต้นไม้ที่ปลูกภายในโครงการ ช่วยลด CO ที่ปล่อยออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์ในโครงการได้ทั้งหมด
เสียงและความสั่นสะเทือน
- ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้เกิดการรบกวนชุมชนน้อยที่สุด
- จัดให้มีรั้วทีมรอบแนวเขตที่ดินสูงไม่น้อยกว่า 6 เมตร
- กำหนดแผนงานก่อสร้างและวิธีการก่อสร้างที่เหมาะสม อาทิ จัดให้เครื่องจักรที่มีเสียงดังทำงานในเวลากลางคืน จัดให้มีวิศวกรคอยตรวจสอบและควบคุมอย่างใกล้ชิด ไม่ทำกิจกรรมที่ส่งเสียงดังพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
- จัดหาอุปกรณ์ป้องกันเสียงให้แก่คนงานและจำกัดระยะเวลาทำงานที่สัมผัสกับระดับเสียง
- มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดเสียงตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง
- ระดับเสียงจากการก่อสร้างโครงการอยู่ในช่วงค่ามาตรฐานระดับเสียงเฉลี่ย (Leg) 24 ชั่วโมง 50.5 dB(A) และไม่เกินคำระดับเสียงสูงสุด (Lmax)
ทรัพยากรดินและการชะล้างพังทลายของดิน
- ตอกเข็มกันพัง (SHEET PILE) และทำการค้ำยัน (BRACING) เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของผนังด้านข้าง โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะถอนเข็มกันพังและกลบร่องดินโดยการบดอัดดินให้แน่นทันที
- จัดทำรั้ว หรือกำแพงที่มีความสูงอย่างน้อย 2.0 เมตร ล้อมรอบบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อป้องกันการพังทลายของดินออกสู่ภายนอก
- ตรวจสอบสภาพผนังกับดิน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตลอดช่วงก่อสร้างโครงการ
- มีผลกระทบจากการชะล้างพังทลายของดินออกสู่ภายนอกสูงสุด = 0.116 ตัน/ไร่/ปี ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ (ระดับที่ยอมรับต้องไม่เกิน 5 ตัน/ไร่/ปี) จึงไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อการพังทลายของดิน
การจัดการน้ำเสีย
- จัดให้มีวิศวกรสุขาภิบาล หรือช่างเทคนิค เพื่อควบคุมและปรับปรุงคุณภาพระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพตลอดเวลา
- ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียแยกจากระบบไฟฟ้าส่วนอื่น เพื่อตรวจสอบควบคุมให้มีการเดินระบบน้ำเสียตลอดเวลา
- จัดให้มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสียอยู่เสมอ
- เก็บตัวอย่างและวิเคราะห์คุณภาพน้ำด้วยวิธีมาตรฐาน เดือนละ 1 ครั้ง
- น้ำเสียของโครงการที่ผ่านการบำบัดแล้ว มีค่า BOD ออกไม่เกิน 20 มิลลิกรัม/ลิตร จึงไม่ส่งผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อคุณภาพน้ำ
การกำจัดขยะมูลฝอย
- จัดให้มีถังขยะ ที่มีความแข็งแรงทนทาน มีฝาปิดมิดชิด สามารถรองรับขยะได้ไม่น้อยกว่า 3 วัน เพื่อรอให้รถเก็บขยะมาจัดเก็บต่อไป
- มีการตรวจบริเวณที่ตั้งถังขยะมูลฝอย ห้องพักมูลฝอยทั้งแห้งและเปียกตลอดระยะเวลาการเปิดดำเนินการ
- มีปริมาณมูลฝอย 2 ประเภท คือ  มูลฝอยจากกิจกรรมทางการก่อสร้างและมูลฝอยจากกิจกรรมของคนงาน ซึ่งจากการที่มีมาตรการป้องกันและจัดการขยะที่ดี ทำให้ไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญ

หมายเหตุ :
(1) ค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (.. 2538) และฉบับที่ 24 (.. 2547) เรื่องกำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป
(2) ค่ามาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (.. 2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ..
2535 เรื่องกำหนดมาตรฐานระดับเสียงโดยทั่วไป
(3) ค่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากที่ดินจัดสรร
(4) ค่ามาตรฐานตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 44 (.. 2538) และ 51 (.. 2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ..2522

จากการปฏิบัติตามมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ของโครงการ ซึ่งผลการปฏิบัติตามมาตรการฯ ดังแสดงรายละเอียดในแผนการดำเนินการและตารางสรุปผลการปฏิบัติข้างต้น ทำให้การดำเนินโครงการของบริษัทฯ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใดๆ ทั้งในด้านการจัดการน้ำ ด้านเสียง การกำจัดขยะมูลฝอย มีการบริหารจัดการได้ดี และจากการปลูกต้นไม้ใหญ่ และจัดทำพื้นที่สีเขียว ทำให้สภาพแวดล้อมสวยงามช่วยป้องกันและลดผลกระทบมลภาวะทางอากาศได้เป็นอย่างดี สร้างพื้นที่สีเขียวในบริเวณพื้นที่ให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

การส่งเสริมการป้องกันของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
            บริษัทฯ ลงทุนในด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย ส่งผลดีอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณเมืองและพื้นที่ก่อสร้างช่วยลดเวลาในการก่อสร้างทำให้ผลกระทบของมลภาวะทางอากาศลดลง เนื่องจากมีปริมาณฝุ่นละอองและไอเสียจากรถบรรทุกและเครื่องจักรลดลง ขณะเดียวกันมลภาวะทางเสียงต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ข้างเคียงลดลงด้วย ทำให้บริษัทเกิดขึ้นงานขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

ผลงานของบริษัท
ทาวน์เฮ้าส์ / บ้านแฝด
          บ้านเดี่ยว
คอนโดมิเนียม
              ·         บ้านพฤกษา 
                ·         บ้านพฤกษา
                        ·         ซิตี้วิลล์
              ·         เดอะคอนเนค 
                ·         พฤกษาวิลเลจ
                        ·         ไอวี่
              ·         พฤกษาวิลล์
                ·         เดอะแพลนท์
                        ·         เดอะซี๊ด

การบริหารจัดการคุณภาพน้ำ
              ได้ดำเนินการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานก่อนระบายน้ำลงสู่คูคลองสาธารณะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งใช้เครื่องจักรอัตโนมัติที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มมาตรฐานและคุณภาพที่มากขึ้น            

ตารางแสดงผลความก้าวหน้าในการบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากเสียง
การป้องกันและลดผลกระทบด้านเสียงในโรงงาน


บริษัทฯ คำนึงถึงระดับความดังของเสียงในขณะปฏิบัติงาน จึงได้ติดตั้งผนังกันเสียง (Noise Barrier) และเครื่องเขย่าคอนกรีตแบบลดมลภาวะทางเสียง (Compacting Concrete) เพื่อช่วยควบคุมและลดระดับความดังของเสียงที่อาจส่งผลกระทบต่ออาชีวอนามัยของพนักงานปฏิบัติงานและชุมชนใกล้เคียง

การบริหารจัดการน้ำทิ้งของ  Batching Plant
น้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็ก เมื่อผ่านการล้าง Mixer Batching Plant จะมีค่าความเป็นด่างสูง ทำให้เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงทำบ่อตกตะกอน เพื่อนำน้ำที่ผ่านกระบวนการตกตะกอนแล้วกลับไปใช้ใหม่หมุนเวียนภายในโรงงาน และนำกากที่ได้จากบ่อตกตะกอนไปถมที่ดินหรือถมถนน

ตารางแสดงผลความก้าวหน้าในการบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากน้ำทิ้ง

การบริหารจัดการของเสียที่เหลือจากกระบวนการผลิต
         บริษัทฯ คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากของเสียที่เหลือจากกระบวนการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กรูป เช่น เศษน้ำมันที่เหลือจากโต๊ะหล่อแบบ เป็นต้น จึงได้นำระบบหรือเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อลดปริมาณของเสียที่อาจเกิดขึ้น ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการนำเศษน้ำมัน หรือของเสียอื่นๆ ไปทำลายหรือทิ้งภายนอก

ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นกับบริษัท
         บริษัท พฤกษา จำกัด(มหาชน)ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ล่าสุด คณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม ว่า บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท มีความผิดจริงตามที่ลูกบ้านร้องเรียน และจี้ให้ดำเนินคดีกับบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ในกรณีไม่ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนที่จะสร้างบ้านก่อนขาย และปล่อยน้ำเสียออกจากทั้ง 5 โครงการ ลงในคลองชลประทาน
          โดยจากการตรวจวัดคุณภาพน้ำพบว่า โครงการบ้านพฤกษา บี มีการปล่อยน้ำทิ้งมีค่าบีโอดี (ความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ : Biochemical Oxygen Demand : BOD) ปริมาณ 47.6 มิลลิกรัมต่อลิตร (Mg/l) หมู่บ้านพฤกษา 13 พบค่าบีโอดี ปริมาณ 39.6 มิลลิกรัมต่อลิตร (Mg/l) หมู่บ้านพฤกษา 9 พบค่าบีโอดี ปริมาณ 37.6 มิลลิกรัมต่อลิตร (Mg/l) โครงการบ้านภัสสร 12 พบค่าบีโอดี ปริมาณ 38.2 มิลลิกรัมต่อลิตร (Mg/l) และหมู่บ้านราชพฤกษ์ 1 พบค่าบีโอดี ปริมาณ 57.6 มิลลิกรัมต่อลิตร (Mg/l) ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกคำสั่งทางปกครองให้ปรับและห้ามมิให้ปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองสาม
    นอกจากนั้น ยังเห็นควรให้เชิญอธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาคลองหลวง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้ร้องเรียน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมาธิการฯ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว

มาตรการการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทพฤกษา
          บริษัทฯ ควรจัดหาบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำด้านการบริหารจัดการคุณภาพน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสีย รวมถึงกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ดำเนินการควบคุม ตรวจสอบ ดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ของระบบบำบัดน้ำเสียในโครงการที่อยู่อาศัยให้ได้มาตรฐานและพร้อมใช้งาน ตลอดจนตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำทิ้ง และจัดทำรายงานสรุปผลการบริหารจัดการคุณภาพน้ำ รายงานการวิเคราะห์คุณภาพน้ำทิ้ง และข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อเสนอต่อบุคคลหรือองค์กรที่มีส่วนได้เสีย อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล กรมชลประทาน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น